วิธีเลือกซื้อสว่านไขควงให้เหมาะกับการใช้งาน


สว่านไขควง

สว่านไฟฟ้า เป็นสว่านที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นช่างผู้รับเหมา หรือ ใช้สำหรับทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน แต่การเลือกใช้สว่านไฟฟ้าจะมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ใช้งานที่จะต้องมีไฟฟ้าเข้าถึง ข้อดีของสว่านไฟฟ้า คือ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลกับกำลังของเครื่อง แต่สว่านไฟฟ้าอาจจะไม่คล่องตัวในการทำงาน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของสายไฟที่จะทำให้ผู้ใช้งานทำงานไม่สะดวก

สว่านไร้สาย หรือ สว่านแบตเตอรี่ ก็เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ตัวสว่านไม่มีสายไฟให้เกะกะรำคาญใจในการทำงาน สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ สะดวกในการทำงานมีความคล่องตัวเป็นอย่างมาก แต่ราคาของสว่านไร้สายนั้นค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสว่านไฟฟ้า และ อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องกำลังของเครื่องซึ่งใช้แบตเตอรี่ในการจ่ายไฟ อาจทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

ชนิดของสว่าน

  1. สว่านไขควงไฟฟ้า สว่านประเภทนี้จะมีแบบไร้สาย หรือที่ใช้แบตเตอรี่ และ แบบใช้ถ่าน กำลังไฟของสว่านไขควงไฟฟ้าจะอยู่ที่ 3.6V ไม่มีลูกเล่นอะไรมาก ใช้เป็นไขควง หรือ ที่เรียกอีกอย่างว่า “ไขควงไฮโซ” ใช้งานง่ายไม่ต้องออกแรงหากมีติดบ้านไว้ก็สะดวกดี
  2. สว่านไฟฟ้า เหมาะกับงานเจาะไม้ เจาะเหล็ก หรือ พลาสติก โดยที่กำลังไฟของสว่านไฟฟ้าจะอยู่ที่ราว ๆ 350 – 500 วัตต์ ไม่เหมาะที่จะนำไปเจาะปูนหรือปูนฉาบเรียบ
  3. สว่านกระแทก จะไม่ต่างจากสว่านไฟฟ้ามากนัก โดยที่กำลังไฟจะสูงกว่า ราว ๆ 500 – 700 วัตต์ และ เสริมลูกเล่นสำหรับเจาะปูน และ ด้วยลูกเล่นแบบนี้ทำให้หลาย ๆ คนเจอกับปัญหาสว่านไหม้ เพราะสว่านกระแทกทำมาเพื่อเจาะปูนที่เป็นปูนก่อฉาบ บางคนไม่รู้นำไปเจาะปูนคอนกรีต
  4. สว่านโรตารี่ สว่านประเภทนี้จะเหมาะกับบานปูน เนื่องจากมีกำลังวัตต์เริ่มต้นที่ 650 วัตต์เป็นต้นไป และสว่านประเภทนี้ห้ามออกแรงกดตัวเครื่องให้ออกแรงเพียงประคองตัวเครื่องและกดดอกเท่านั้น

วิธีการเลือกซื้อสว่านให้เหมาะกับการใช้งาน

เลือกซื้อจากประเภทของการทำงาน

หากต้องการเจาะแบบกระแทก หรือ การเจาะแบบธรรมดา สำหรับการเจาะปูนให้สังเกตที่ตัวสว่านด้านบนจะมีปุ่มสำหรับเลือกการทำงานว่าต้องการเจาะแบบไหน เจาะไม้ เจาะเหล็ก หรือ เจาะอะลูมิเนียม  สว่านที่ใช้ก็จะเป็นแบบธรรมดา โดยบางรุ่นจะมีปุ่มปรับสามารถใช้ขันและคลายสกรูได้ ลักษณะจะคล้ายกับสว่านกระแทกมีกำลังวัตต์ค่อนข้างสูง คุณสมบัติจะมากกว่าสว่านธรรมดา คือ นอกจากเจาะเหล็กได้ เจาะไม่ได้ ยังสามารถเจาะคอนกรีต หิน และ อิฐได้ด้วย สำหรับมืออาชีพสว่านที่ต้องมีไว้ผ่อนแรงในงานเจาะก็จะเป็นสว่านประเภทสว่านโรตารี่ เนื่องจากต้องเจอกับงานที่ต้องออกแรงค่อนข้างมากในการเจาะหินหรือคอนกรีต โดยสว่านโรตารี่แบ่งเป็น สว่านโรตารี่ 2  ระบบ สำหรับเจาะกระแทก กับสว่านโรตารี่ 3 ระบบ สำหรับการเจาะไม่กระแทก เจาะกระแทก และ ระบบสกัด

การเลือกซื้อจากกำลังวัตต์

สว่านไฟฟ้ากำลังไฟฟ้าจะมีหน่วยเป็นวัตต์ ยิ่งจำนวนวัตต์สูง ๆ กำลังสนการทะลุทะลวงก็จะยิ่งสูง และ ยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานกว่า แต่จะกินไฟเยอะกว่าด้วย โดยสว่านไฟฟ้าส่วนใหญ่กำลังไฟจะอยู่ประมาณไม่เกิน 300 วัตต์ หากเป็นสว่านแบตเตอรี่ไร้สาย กำลังไฟจะบอกเป็นโวลต์ตัวเลขที่สูงมากจะหมายถึงกำลัง และ น้ำหนักของแบตเตอรี่ที่มากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า แบตเตอรี่จะอยู่ได้นานกว่าสว่านไร้สายจะเหมาะกับงานทั่วไปในบ้าน งาน DIY และควรเลือกกำลังไฟที่ 12 – 18 โวลต์ เหมาะกับงานเปลี่ยนมือจับตู้ เปลี่ยนบานพับ ซึ่งในปัจจุบันมีสว่านไร้สายที่มีกำลังโวลต์สูงที่สามารถเจาะคอนกรีตได้ด้วย หรือ เรียกอีกอย่างว่า “สว่านกระแทกไร้สาย”

เลือกซื้อจากสถานที่และความสะดวกในการใช้งาน 

หากต้องใช้งานในสถานที่ ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง และไม่มีเครื่องปั่นไฟ จำเป็นจะต้องเลือกสว่านแบตเตอรี่ไร้สาย ซึ่งจะมีทั้งสว่านธรรมดาไร้สาย สว่านกระแทกไร้สาย สว่านโรตารี่ไร้สาย ส่วนชนิดของแบตเตอรี่นั้น แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม – ไอออน มีข้อดี คือ แรงไม่ตก ซึ่งแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ เมื่อแบตเตอรี่เริ่มอ่อนก็จะเริ่มตกทำให้ไม่สามารถทำงานต่อได้

การจัดเก็บ และ การบำรุงรักษาสว่าน

  1. ควรทำความสะอาดทุกครั้ง หลังจากใช้งานเสร็จ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นซอกอาจมีเศษผงจากการเจาะเข้ามาติดในมอเตอร์ อาจทำให้สว่านพังได้
  2. ควรถอดดอกสว่านออกทุกครั้ง หลังการใช้งานในส่วนที่เป็นโลหะ ควรเช็ดด้วยน้ำมันเพื่อป้องกันการขึ้นสนิม
  3. ตรวจสอบสว่านว่ามีสภาพการใช้งานได้ปกติ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานครั้งต่อไป
  4. เก็บสว่าน และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้าที่ ไม่ควรเก็บไว้ในที่ชื้นควรเก็บไว้ในที่แห้ง