เครื่องยิงตะปูไฟฟ้า มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร เพื่อตรงตามความต้องการมากที่สุด


เครื่องยิงตะปูไฟฟ้า

เครื่องยิงตะปูไฟฟ้า เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ในการยึด/ติดชิ้นงาน เข้าด้วยกัน ตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปหรือมากกว่า โดยใช้แรงลมเป็นตัวอัดลูกแม็ก หรือตะปูให้ยึดติดกับชิ้นงาน โดยเครื่องยิงตะปูจะมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานไม่ว่าจะเป็นแม็กลมตะปูขาคู่ หรือตะปูขาเดี่ยว นอกจากนั้นยังแบ่งย่อยตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ เครื่องยิงตะปูสำหรับงานไม้ และ เครื่องยิงตะปูสำหรับงานคอนกรีต

เครื่องยิงตะปูไฟฟ้า ทำงานอย่างไร

เครื่องยิงตะปูไฟฟ้านั้น มีทั้งแบบมีสายและแบบไร้สายซึ่งการใช้งานทั้ง 2 แบบนั้นก็มีความที่จะแตกต่างกันในด้านของความสะดวกสบายในการใช้งานและการพกพาแต่เครื่องยิงตะปูทั้ง 2 รูปแบบนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่จะเลือกมาใช้งานนั้นคุณควรที่จะพิจารณาลักษณะของการใช้งานของคุณเป็นหลักว่าควรที่จะเลือกซื้อแม็กไฟฟ้าแบบไหนพี่จะเหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุด

สำหรับเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าแบบมีสายนะนิยมที่จะใช้ในงานที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวบ่อย ๆ หรือในพื้นที่ที่จำกัดเพราะว่าจะมีข้อจำกัดในด้านสายไฟที่จำเป็นจะต้องลากพวกมันไปทุกทีเมื่อที่จะต้องใช้งานซึ่งอาจจะทำให้สะดวกน้อยลงไปกว่าการใช้งานเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าแบบไร้สายซึ่งคุณสามารถที่จะถือไปทำงานภายในไซต์งานหรือบริเวณที่ทำงานได้รูปที่โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของสายที่จะเกะกะขณะใช้งานแต่ว่าก็มีข้อจำกัดตรงที่ว่าเครื่องยิงตะปูแบบไร้สายนั้นใช้แบตเตอรี่ในการเป็นแหล่งพลังงานซึ่งมีอายุการใช้งานที่จำกัดแบตเตอรี่หมดนั้นจำเป็นที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ก่อนใช้งานซึ่งจะกินเวลาในการชาร์จ 3-4 ชั่วโมงซึ่งสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการซื้อแบตเตอรี่เสริมอีก 1 แพ็คหรือหลายแพ็คเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานพวกมันได้อย่างตลอดวัน

ในเรื่องของราคานั้นเครื่องยิงแม็กไฟฟ้าแบบไร้สายนะจะมีราคาที่แพงกว่าเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าแบบที่ใช้สายเพราะว่าคุณนั้นจะต้องซื้อแบตเตอรี่เสริมเพื่อที่จะให้พวกมันนะสามารถใช้งานได้ตลอดวันนั้นเองส่วนเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าแบบมีสายนั้นพวกมันจะมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องยิงตะปูแบบไร้สายพอสมควรในส่วนของมือใหม่นั้นที่ไม่ต้องการการใช้งานในเชิงพาณิชย์เราแนะนำให้คุณเลือกซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าแบบที่มีสายก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว

สิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้า

การเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมสำหรับงานนั้นจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำงานรวดเร็วรวมถึงช่วยให้งานนั้นออกมาได้ดีตามที่คุณคาดหวังซึ่งก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้านั้นคุณควรที่จะดูก่อนว่าลักษณะการใช้งานของคุณนั้นเป็นแบบไหนเป็นแบบงานเล็ก ๆ แบบ DIY ซ่อมนั่นนิดนี่หน่อยหรือว่าเป็นงานในเชิงพาณิชย์รับจ้างทำเฟอร์นิเจอร์หรืองานไม้ขนาดใหญ่งานรับเหมา ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานได้ถูกต้อง

  1. ลักษณะพื้นที่ใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในไซต์งานบางพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวไม่สามารถที่จะลากสายไฟที่เกะกะเพื่อที่จะนำพวกมันไปใช้งานได้คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าที่เป็นรุ่นไร้สายเพื่อความคล่องตัวในการใช้งานและสามารถที่จะทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  2. การรองรับลูกแม็กหรือตะปูงั้นคุณควรที่จะพิจารณาก่อนว่าเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าที่คุณจะซื้อนั้นสามารถรองรับลูกแม็กยิงตะปูไฟฟ้าได้สูงสุดขนาดไหน ในกรณีที่ต้องการยึดไม้ 2 ชิ้นเข้าด้วยกันงั้นคุณอาจจะต้องการตะปูที่มีความยาวแตกต่างกันเพราะว่าความหนาของไม้นั้นอาจจะมีความแตกต่างกันดังนั้นคุณควรที่จะพิจารณาเลือกซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าที่สามารถรองรับการใช้ตะปูที่มีความยาวหลากหลายขนาดถ้าจะเหมาะสมที่สุดและคุ้มค่าที่สุด
  3. อัตราการยิงของเครื่องยิงตะปูไฟฟ้านั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการบอกถึงประสิทธิภาพของเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าว่าพวกมันนั้นสามารถที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างรวดเร็วมากเท่าใดโดยเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสามารถในการยิงตะปูไฟฟ้าที่ความเร็วอย่างน้อย 25 นัดต่อนาทีซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำงานได้อย่างรวดเร็วได้งานออกมาดีมากยิ่งขึ้น
  4. ความจุของ Magazine ที่ใช้ในการบรรจุตะปูไฟฟ้า นั้นก็มีความจำเป็นเพราะว่าถ้าคุณซื้อเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าที่มี Magazine ที่มีความจุมากนั้นจะทำให้คุณนั้นสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วมากินขึ้นไม่จำเป็นที่จะต้องไปเปลี่ยนแม็กหรือตะปูไฟฟ้าบ่อย ๆ จะทำให้งานของคุณนั้นมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
  5. ความสามารถในการปรับระดับความแรงในการยิงซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับระดับให้เหมาะสมกับชิ้นงานคือ ชิ้นงานบางประเภทนั้นมีความบางและหนาไม่เท่ากันซึ่งที่ระดับความแรงในการยิงที่แตกต่างกันนั้นตะปูที่อยู่ในเครื่องยิงตะปูนั้นจะอยู่ในระดับที่ต่างกันซึ่งถ้าคุณปรับน้อยเกินไปอาจจะไม่จมเข้าไปในเนื้อไม้ทั้งหมดแต่ถ้าคุณปรับเยอะมากเกินไปนั้นตะปูจะจมเข้าไปในเนื้อไม้มากเกินไปหรืออาจจะทำให้ไม้ทะลุได้ดังนั้นความสามารถในการปรับระดับนั้นจะช่วยให้คุณสามารถที่จะปรับระดับความแรงให้เหมาะสมกับชิ้นงานจะช่วยให้ที่งานที่ออกมานั้นสวยงาม